ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปกี่สิบปี คณิตศาสตร์ก็ไม่เคยง่ายขึ้น แต่เสียงบ่นที่ว่า “ไม่รู้จะเรียนไปทำไม” หรือ “ใช้จริงแค่บวกลบคูณหาร” ควรปิดตำนานได้เสียที
ก่อนหน้านี้ ในช่วงกักตัว covid-19 คนทำงานต้อง work from home นักเรียนนักศึกษาก็ study from home ลำบากลำบนในการปรับตัวกันพักใหญ่ 😩
ส่วนที่บ้านนี้ ก็มีอะไรทำเรื่อยๆ ทำให้ไม่เหงา เช่น ต้องปัดฝุ่นความรู้คณิตศาสตร์มัธยม มาใช้ติวสอบให้หลานๆ ที่ต้องอ่านหนังสือกันเองที่บ้าน เกิดเป็นปฏิบัติการพาคุณหลานหนี dog 🐕🐶 วิชาเลข ซึ่งเป็นวิชาที่คุณหลานไม่ค่อยถนัดนัก
เฮ้อ ... วิชาเลขมันยาก เรียนว่ายากแล้ว แต่สอบยิ่งยากกว่า ... ทั้ง cat 🐈😼 dog 🐕🐶 ร้องเงี้ยวง้าว ง้องแง้ง เรียกหากันระงม 😅
ถึงคุณน้าจะเคยเป็นติวเตอร์ แต่แหม ... ก็หลายสิบปีแล้วนะ 😅😅😅 และการต้องเปลี่ยนสถานะจากน้าหลาน มาเป็นคุณครูกับนักเรียนครั้งแรก ก็ต้องมีสัมภาษณ์กันเล็กน้อยก่อนเปิดห้องเรียน
ทว่า ... สัมภาษณ์ยังไม่ทันไร คุณน้าก็ “อึ้ง” 😳 ซะแล้ว เมื่อคุณหลานแอบบ่นว่า “ไม่รู้จะเรียนไปทำไม” วิชาเลขยากๆ เนี่ย 🔢🙏🙏
อืม ... มันคือปัญหา “คลาสสิก” ที่ไม่ว่าเวลาจะผ่านพ้นไปนานแค่ไหน เด็กๆ ก็ยังสืบทอดความสงสัยเดิมๆ อยู่ 😔
อย่าว่าแต่เด็กเลย เพื่อนเรารุ่นเดียวกัน เป็นคุณพ่อของคุณลูกวัยรุ่น เมื่อต้องเผชิญกับสภาวะ “ลูกบ่น” เช่น บ่นว่าแคลคูลัสยาก เรียนไปไม่ได้ใช้ ชีวิตจริงใช้แค่บวกลบคูณหาร ต่างๆ นานา ... ขนาดจบวิศวะฯ มา ยังตอบลูกไม่ค่อยจะได้เลย แถมดูยังจะเออออตามลูกอีกแน่ะ
โถ ไม่นะ ... สำหรับคณิตศาสตร์ แม้หลายเรื่องอาจไม่ง่าย แต่ชีวิตนี้ไม่ควรรู้จักแค่บวกลบคูณหาร
ยังไม่ต้องคิดไกลถึงการพัฒนาประเทศ จากพื้นฐานคณิตศาสตร์หรอก เริ่มง่ายๆ จากตัวเองนี่แหละ ถ้าชีวิตนี้ยังต้องทำมาหากิน ต้องมีรายได้ มีค่าใช้จ่าย มีการลงทุน มีการออม และอะไรๆ ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องเงินๆ ทองๆ ก็หนีไม่พ้นต้องพัวพันกับคณิตศาสตร์ทั้งนั้นแหละ 🔢 ... ส่วนจะเกินจากบวกลบคูณหารไปอีกกี่มากน้อย แต่ละคนคงไม่เหมือนกัน ... ทว่าหากรู้เยอะ ก็จะช่วยส่งเสริมทักษะใน การแก้ปัญหา (problem solving) และคิดพลิกแพลงได้หลากหลายกว่าแน่นอน
ต่อหน้าหลานๆ ที่แสดงความ “ท้อ” ตั้งแต่ก่อน “ถอย” โจทย์ข้อแรกมาทำกันเสียอีก คุณน้าจึงต้องหลอกล่อให้ฮึดสู้ไปก่อน แต่ลับหลังก็แอบมาหาข้อมูล เพื่อปลุกปั้น “ไทม์ไลน์ 5000 บวกลบคูณหาร ++ (พลัสพลัส)” เล่มนี้
โดยหวังว่าอย่างน้อย เมื่อเด็กๆ ได้รู้ซึ้งเกี่ยวกับที่มาที่ไปในอดีต การนำไปประยุกต์ และใช้งานจริงของคณิตศาสตร์ด้านต่างๆ (รวมถึงด้านที่น่าจะช่วยให้แอบอมยิ้ม) ก็จะช่วยให้เข้าใจ ถึงความจำเป็นของ “พลัสพลัส” ที่เกินกว่าแค่บวกลบคูณหาร และปิดตำนาน “ไม่รู้จะเรียนไปทำไม” ได้เสียที
ส่วนผลการติว แม้จะจบด้วยคำขอบคุณที่ช่วยให้เข้าใจอะไรๆ ดีขึ้น แต่ในห้องสอบที่ยังต้องถูกกดดันจากเวลาอันจำกัด ก็คงไม่สามารถ “อัพ” เกรดได้เร็วปรู๊ดปร๊าดดั่งใจ ... ของแบบนี้ มันต้องสะสมชั่วโมงบินด้วยจ้าาา
เพราะฉะนั้น เจอหน้าครั้งต่อไป ถ้าคุณหลานไม่อยากรายงานผล คุณน้าก็จะไม่ถามเซ้าซี้ ... แต่จำไว้เลยนะเด็กๆ การที่เราไม่ถนัดวิชาเลขนั้นแปลว่า เราต้องใส่ความพยายามมากกว่าคนอื่นที่เก่งๆ กันอยู่แล้ว ไม่ใช่ไม่ชอบ ก็ปล่อยทิ้ง จนเละเทะ ... ชีวิตใครชีวิตมันนะเออ ... ถ้าไม่อยากใช้เวลาช่วงปิดเทอม มาซ่อมแล้วซ่อมอีก ต้องยอมเหนื่อยตั้งแต่วันนี้ เชื่อเถอะ
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก freepik.com
หนังสือชุด “ไทม์ไลน์ 5000” ความรู้รอบตัวในรูปแบบ e-book โดย ดร.ทิพยาดา ศรีเจริญ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น