เรื่องของ “เงิน” คือการทำให้ “เชื่อ” ว่า “มูลค่า” ซึ่งไม่เคยมีตัวตน และสัมผัสไม่ได้นั้น มีอยู่ “จริง”
- เงินกระดาษที่คุ้นเคยอยู่ทุกวันๆ ก็แค่กระดาษแผ่นเดียวเอง ทำไมบางแผ่นซื้อของได้ 20 บาท? บางแผ่น 100 บาท 500 บาท 1000 บาท? 😇
- แสตมป์ร้านสะดวกซื้อ แต้มบัตรเครดิต หรือไมล์สายการบิน ✈ ทำไมขยันสะสมกันจัง?
- เงินในสมุดบัญชีธนาคาร 🏦 (หรือหลังๆ ไม่มีสมุดเลยด้วยซ้ำ) กดโอนกันไปมา ก็แค่ตัวเลข 🔢 ที่ล่องลอยไปในอากาศ และสายสัญญาณ ... ทำไมแม้ไม่เห็นเงินตัวเป็นๆ ก็ซื้อของได้แล้ว?
- ทองคำ 💫 โลหะก้อนหนักๆ ที่สะท้อนแสงวิบๆ วับๆ กินก็ไม่ได้ รักษาโรคก็ไม่ใช่ แต่ทำไมเมื่อคล้องอยู่บนคอ ใส่เดินลอยหน้าลอยตาไปไหนทีไร เป็นต้องล่อตาล่อใจให้โดนกระชากได้ทุกที? 😓
- นอกจากนี้ ถ้าใครเคยดูหนังจีน ก็คงเคยเห็นการใช้ตั๋วเงิน ที่พ่อค้าฝนหมึกเขียนพู่กัน ลงลายมือบนแผ่นกระดาษเองเลย แบบนี้ก็เป็นเงินได้หรือ?
- หรือไกลกว่านั้นในยุคโบราณ ก็มีใช้ทั้งขนนก 🐥 เปลือกหอย 🌀 หินสี ฯลฯ นำมาแลกสิ่งของและข้าวปลาอาหารกันได้สบายๆ ... ใครอยู่ใกล้แหล่งรังนก 🐣 หรือชายทะเล 🌊มิรำ่รวยไปแล้วหรือ?
แม้จะดูไม่น่าเชื่อ แต่หากผู้คนจำนวนมากพอ ยอมรับที่จะ “เชื่อ” แล้ว จากสิ่งที่ดูแสนจะธรรมดา ไม่น่ามีมูลค่าใดๆ ก็มี “มูลค่า” ขึ้นทันที
ทว่าคำถามสำคัญ คือ “ทำไม” ผู้คนจำนวนมาก 👪 จึงยอมรับที่จะ “เชื่อ” กันง่ายๆ ล่ะ? Why, why, why ... ❓
- บนธนบัตร 20 บาท 100 บาท 500 บาท และ 1000 บาท ทุกฉบับเขียนไว้ว่ารัฐบาลไทยรับประกัน ดังนั้นไม่ว่าจะเชื่อรัฐฯ มากน้อยแค่ไหน แต่ภาษีที่รัฐฯ บังคับจ่าย ก็ต้องจ่ายเป็นเงินบาทเท่านั้น ใช่มั้ยล่ะ?
- แสตมป์ร้านสะดวกซื้อ แต้มบัตรเครดิต หรือไมล์สายการบิน หากสะสมไว้มากพอ บริษัทต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ก็ยินดีจะให้ใช้แลกเป็นสิ่งของ ซึ่งก็ทำให้พวกมันมีมูลค่าขึ้นมาทันที ตามเครดิตความน่าเชื่อถือของบริษัทเหล่านั้น ใช่มั้ยล่ะ? (แม้แต่บางสายการบิน ✈ ถึงประกาศล้มละลายแล้ว ก็ยังต้องเชื่อต่อเลย 😅)
- ตัวเลขในสมุดบัญชี น่าเชื่อถือ ก็เพราะว่าเป็นธนาคาร และระบบหลังบ้านของธนาคาร ไม่ใช่คอมพิวเตอร์ที่บ้านเรา ใช่มั้ยล่ะ? ... หรือจะขุดดินฝังไหไว้ใต้ถุนบ้าน? ก็เอาที่สบายใจเลยจ้า 💙💚💛
- ทองคำ 💫 แม้จะยังไม่แน่ใจนัก ว่าใครกันที่ช่างกำหนดมูลค่าให้กับมัน แต่อย่างน้อยไฟไหม้ก็ยังเป็นทอง และคนทั้งโลกก็พร้อมที่จะเชื่อถือกันเต็มที่ ... ปฏิเสธได้มั้ยล่ะ ว่ามีเก็บไว้ ย่อมดีกว่าไม่มี?
- ตั๋วเงินในหนังจีน ก็ใช่ว่าอาแปะที่ไหน จะฝนหมึกเขียนเองได้ทุกคน ถ้าไม่ใช่พ่อค้าที่มีเครดิตน่าเชื่อถือ จะรับกันง่ายๆ มั้ยล่ะ?
- ส่วนขนนก เปลือกหอย หินสี ... ก็คงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด ที่หาได้ในยุคสมัยนั้นแล้วละ ... แต่ในที่สุด ก็ค่อยๆ ถูกแทนที่ ด้วยสิ่งอื่นที่น่าเชื่อถือมากกว่า ใช่มั้ยล่ะ?
ถึงจุดนี้ เมื่อเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องของความ “เชื่อ” ที่แม้ไม่น่า “เชื่อ” แต่ก็ “เชื่อ” จนหมดใจแล้ว คราวนี้พอมาเป็นสกุลเงินดิจิทัล (digital currency หรือ cryptocurrency) อย่างเช่นบิตคอยน์ ก็น่าจะเข้าใจกันง่ายแล้วละ
สกุลเงินดิจิทัล เกิดมาจากอากาศธาตุส่วนไหนก็ไม่รู้ ปราศจากตัวตนใดๆ ให้สัมผัสได้ทั้งสิ้น แต่ก็มี “มูลค่า” ใช้ซื้อขายสิ่งของได้จริง ตั้งแต่ของเล็กๆ จนถึงอสังหาริมทรัพย์ใหญ่ๆ แถมยังแลกเปลี่ยนในตลาดเงินตราด้วยกันเอง ทำให้เงินดิจิทัลบางสกุลถูกปั่นรัวๆ จนมูลค่าทะยานขึ้นไปสูงลิบลิ่ว และปัจจุบันรัฐบาลในหลายประเทศ ก็ริเริ่มโครงการศึกษาและพัฒนา นำร่องไปบ้างแล้วอย่างเป็นทางการ ... เราเชื่อถือ หรือมั่นใจอะไรกันนักหนาหรือ?
คำตอบของความนิยมในสกุลเงินดิจิทัลนั้น ก็คือ
- ความ “มั่นใจ” ในเทคโนโลยีบล็อกเชน (blockchain) ที่อยู่เบื้องหลัง และดำเนินการโดยสังคมของผู้คนจำนวนหนึ่ง (community) ไม่ใช่แค่คนใดคนหนึ่ง ... ทว่าแบบนี้ สำหรับผู้เฒ่าผู้แก่ ก็อาจลำบากหน่อย เพราะคงต้องใช้เวลา จนกว่าจะสร้างความคุ้นชิน และมั่นใจที่จะยอมรับ 😅
- ความเริ่ม “ไม่มั่นใจ” กับตัวเลือกเดิมๆ ที่ดูจะสั่นคลอน และโหวงเหวงขึ้นทุกทีๆ ... เช่น US dollar ที่ล้นโลก และมีมูลค่าสูงเกินจริงมานานแล้ว ทั้งยังมีประเด็นเรื่องเครดิตหนุนมูลค่าเงิน ที่หย่อนลงเรื่อยๆ อีก
- ส่วนเรื่องการเก็งกำไร จนทำให้มูลค่าของเงินดิจิทัลบางสกุล กระโดดขึ้นไปสูงลิบลิ่วนั้น ขอยกไว้ให้เป็นวิจารณญาณส่วนตัวก็แล้วกัน ... ถึงอย่างไร ก็อย่าลืมย้อนกลับไปเช็คประเด็นของตัวเลือกเดิมๆ เปรียบเทียบดู
วิวัฒนาการของเงินทองเรื่องใกล้ตัว ได้เดินทางผ่านหน้าประวัติศาสตร์อันยาวนานกว่า 5000 ปีแล้ว ปัญหาหลายอย่างแม้จะถูกแก้ไข แต่ปัญหาใหม่ที่ร้ายกว่าเดิม ก็เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าผลลัพธ์จะทำให้ “สุข” หรือ “ทุกข์” ในวันนี้ แต่ก็คงไม่มีใครปฏิเสธ ที่จะอยู่ร่วมกับมันต่อไป
โดยเฉพาะในโลกยุคดิจิทัลที่กำลังถูกดิสรัปต์เต็มสปีด หากมีโอกาสได้คิด “ทบทวน” ถึงที่มาที่ไปในอดีต ก็อาจช่วยให้ “เข้าใจ” ความเป็นไปในปัจจุบัน และ “ตั้งรับ” หนทางข้างหน้าได้ดียิ่งขึ้น มาติดอาวุธสมองในหลากมิติ กับ “ไทม์ไลน์ 5000 จากเงินเปลือกหอยสู่คริปโต” เพื่อเตรียมพร้อมรับมือก่อนสายกันเถอะ
หนังสือชุด “ไทม์ไลน์ 5000” ความรู้รอบตัวในรูปแบบ e-book โดย ดร.ทิพยาดา ศรีเจริญ















โปรยได้น่าสนใจมากค่ะ
ตอบลบขอบคุณมากค่ะ
ลบ